เปิดรับบริจาคอ้างยากจน จนคนหลงเชื่อโอนให้ เข้าข่ายผิดฉ้อโกง

“ทนายเกิดผล” เผยข้อกฎหมาย เคสแม่เด็ก 18 สอบติดแพทย์ จนทิพย์ บอกการเปิดรับบริจาคอ้างยากจน จนกระทั่งคนหลงเชื่อโอนให้ เข้าข่ายผิดฉ้อโกง

วันที่ 19 เดือนมกราคม 66 จากกรณีนักเรียนผู้ชายวัย 18 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางครอบครัวแจ้งว่า น้องสอบแข่งขันเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่มีปัญหาเรื่องทุนสำหรับการศึกษา พร้อมกับเปิดรับบริจาค ก่อนจะออกมาประกาศขอบคุณผู้ใจบุญ พร้อมด้วยปิดรับบริจาคเงินไป โดยมีตัวแทนจากมูลนิธิแห่งหนึ่ง แจ้งความประสงค์ดูแลเรื่องทุนเพื่อการศึกษาของน้องกระทั่งจบการศึกษา

จนทิพย์ เปิดรับบริจาคอ้างยากจน

แต่แล้วชาวเน็ตได้มีการแชร์ภาพจากเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง

กล่าวถึงว่าเป็นภาพของน้อง ขณะที่ถือโทรศัพท์ไอโฟน 12 Pro Max ใส่นาฬิกา Apple Watch พร้อมกับตั้งคำถามว่า ใช้ของมีราคาขนาดนี้ จะมาขอรับบริจาคเพราะอะไร หรือเพราะอะไรไม่ไปกู้ กยศ.

กระทั่งถัดมา มีตัวแทนจากครอบครัวของน้อง ออกมาแจกแจงถึงยอดเงินบริจาคว่า เท่าที่รู้ เงินผ่านบัญชีมีประมาณ 8 แสนบาทเศษ ส่วนของราคาแพง ที่น้องใช้นั้น แม่ก็ยังผ่อนอยู่ เพราะว่าต้องการให้ น้องมีอุปกรณ์ที่นำสมัย เพื่อใช้สำหรับการร่ำเรียน หาความรู้ด้วยตัวเอง

แต่ทว่าเรื่องยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะเหตุว่ามีสาวที่อ้างว่า เป็นคนนึงที่ยื่นมือเข้าไป ช่วยเหลือครอบครัวนี้ ออกมาแฉว่า หลังจากที่แม่น้องได้เงินไปแล้ว ก็เปลี่ยนไป ไม่ยอมชี้แจงเงินบริจาค อ้างแต่เพียงว่า ได้เงินแล้ว จบ

ล่าสุด ทนายเกิดผล แก้วเกิด โพสต์ข้อกฎหมาย ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่า “การเปิดรับบริจาคเพื่อขอเป็นทุนการศึกษา โดยกล่าวถึงว่ายากจน ส่งผลให้บุคคลอื่นหลงเชื่อ และโอนเงิน เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้

แม้เจ้าตัวจะมิได้เป็นคนเปิดรับบริจาคด้วยตนเอง แต่การที่มีคนอื่นๆเข้าใจผิด แล้วเปิดรับบริจาคแทนให้ โดยเจ้าตัวนั้นรู้อยู่แก่ใจว่า ตนเองไม่ได้ยากจน ก็เป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนได้ เนื่องจากว่าจัดว่า มีเจตนาหลอกลวง โดยการปกปิดข้อความจริง ที่ควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนจน และไม่จำเป็นต้องขอทุนเพื่อการศึกษา แต่อย่างใด

(มาตรา ๓๔๑ ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริง ซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้น ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง หรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)”

จนทิพย์ เปิดรับบริจาคอ้างยากจน จนคนหลงเชื่อ

สาวใจบุญตาสว่าง เคสเด็กสอบติดหมอ จนทิพย์ แฉไลฟ์สไตล์แม่ ใส่ทอง เที่ยวผับ ขับเก๋ง

เคสสอบติดหมอ #จนทิพย์ ปัจจุบันสาวที่เป็นคนเปิดประเด็นเคสนี้ ออกมาเปิดเผยแม่เด็ก ขอให้อธิบายยอดบริจาคแต่ถูกปฏิเสธ “ได้เงินมาแล้วมันจบแล้ว”

จากกรณี เด็กนักเรียนอายุ 18 ปี ใน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้สอบแข่งขันเป็นนักศึกษาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แต่มีปัญหาเรื่องเงินทุน ที่จะศึกษาต่อ ก็เลยต้องการเปิดรับบริจาค ต่อจากนั้นก็มีคนโอนเงิน ไปช่วยเหลือไม่น้อยเลยทีเดียว ต่อมากลับมีการเปิดเผยว่า เด็กคนดังกล่าว ไม่ได้ยากไร้จริง โดยมีภาพใช้มือถือราคาแพง ก่อให้เกิดกระแสวิภาควิจารณ์ ไปอย่างกว้างขวาง

ล่าสุด สาวใจบุญที่เป็นคนตั้งประเด็น ช่วยเหลือเด็ก 18 รายนี้ ได้ออกมาโพสต์ระบายความในใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีหลายคนพยายามเตือนเธอ เกี่ยวกับเคสรับบริจาค แต่เธอก็ยังคงเดินหน้า ปกป้องเด็ก ไม่เชื่อคำเตือนของคนใด จนในที่สุดเพิ่งรู้ว่า ตัวเองพลาดเอง โดยข้อความระบุว่า

เราอึดอัดเราอยากระบายมาฟังเราสักหน่อย #เราผิดไปแล้วอย่าด่าเยอะน่ะเราสำนึกผิดไม่ทัน

-ตั้งแต่ทำเคสแบบนี้มาไม่เคยเสียใจ และเสียความรู้สึกแบบนี้มาก่อน สื่อทุกช่องทุกคนโดนต้มสะจนเปื่อยว่า ครอบครัวนี้จน

-ตอนนั้นคนใดว่าน้อง ว่าแม่ เราปกป้องเต็มที่ จนไม่ลืมหูลืมตา เพราะต้องการให้น้องได้มีเงินเรียน

-กระทั่งมันมีชาวเน็ตขุดค้นประวัตแม่และน้อง เราก็ตามด่าชาวเน๊ตว่าไม่ช่วยแล้วยังเสือก แถมอิจฉาน้องที่เขาได้เงิน

-จนกระทั่งมันมีคนโทรมาเตือน มาทักมาว่า ก่อนที่จะทำเคสนี้ เช็คดีหรือยัง มันอาจจะมีอะไรมากกว่าที่คุณ เข้าใจซ่อนอยู่ เราก็เริ่มคิดเริ่มเช็ค เพราะข่าวนี้เรามิได้ลงพื้นที่เอง เพียงแค่เล่นข่าว ถัดมาด้วยเหตุว่าในเวลานั้นเราอยู่ภาคเหนือ จากนั้นก็มีคนโทรมาด่าพวกเรามากมายว่า ร่วมกันหลอกลวงขอรับเงินช่วยเหลือ ร่วมกับครอบครัวนี้

จนทิพย์หลอกลวง

บอกตรง ๆ ว่าเครียดมาก

1 จนยังใงใช้ไอโฟน12โปร ราคา26,000 ใช้นาฬิกาหรู ที่เด็กถ้าหากยากจนจริงไม่มีปัญญาได้ใช้

2 แม่ใส่ทองทั้งตัว เที่ยวผับกินเหล้าขับรถเก๋งหรูพาลูกเที่ยว เวลาไปประชุมผู้ปกครอง สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนม เสื้อผ้าหน้าผมต้องเป๊ะ

3 เด็กกล่าวว่าชีวิตนี้ไม่เคยกินหมูกะทะ ก็ใช่สิหมูกะทะเด็กไม่กิน แต่ว่าแม่พาไปกินไก่kFC ตามห้างดังเพราะว่าลูกชอบ

4 เราพูดว่าให้แม่กับลูกออกมาแถลงข่าว ออกมาขอบคุณและแจ้งยอดแล้วปิดบัญชี แม่กับลูกบอกว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องพูดอะไรเงียบไว้ ได้เงินมาแล้วมันจบแล้ว

แล้วที่ทุกข์ใจสื่อส่วนกลางไทยรัฐ อัมรินทร์ ช่อง7 ขอไปที่บ้านไปดูว่าจนจริงมั้ย โดนปฎิเสธจากแม่แล้วก็คนชื่อทีป โดยอ้างถึงว่า,น้องต้องอ่านหนังสือ,ไม่พร้อมพบสื่อ (ซึ่งตอนนั้นอาจยังมิได้เตรียมคำพูดกลัวแสดงไม่เนียน)

5 เราโทรไปขอร้องแม่และลูกเป็นครั้งที่2 ขอร้องว่าออกมาขอบคุณ แล้วก็แจ้งยอดหน่อย ให้ทุกคนได้รู้หน่อย สงสารพวกเราเถอะ เพราะว่าหลังจากนี้พวกเราไม่สามารถช่วยใคร ที่ลำบากอีกได้เลย เพราะว่าที่หมอ มาหัวหมอแบบนี้คำตอบที่ได้มาคือ ไม่ แบบสั้น ๆ ห้วน ๆ ไม่มีหางเสียง

6 คำพูดของแม่ที่เจ็บใจที่สุด ที่พูดกับเราคือ คุณมาทำข่าวเอง คุณก็แก้เองสิ #เราจบแล้วได้เงินมาแล้ว ไม่พูดอะไรแล้วแล้ว คนที่กล่าวกับเราอีกคนในคำพูดนี้คือ คนชื่อทีป ซึ่งแม่และก็ลูกก็จะฟังแค่คำสั่ง ของคนชื่อทีปเพียงคนเดียว ซึ้งเราไม่รู้ว่า เขาคือใคร

สรุปคือในขณะนี้ทุกคนไม่ทราบเลยว่ายอดเงินเท่าไร

แต่ว่าที่ทราบคือ แม่และก็น้องสร้างเรื่องและก็เล่นละครเก่ง จากที่เคยแต่งหน้าจัดมาก วันนั้นพอทราบว่านักข่าวจะไปถึงนาง ล้างหน้าและก็ปล่อยให้หน้าดำ และดูโทรม ซึ่งจริง ๆ ชีวิตนางในทุกวันไม้ได้เป็นแบบนั้น